วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ลาดกระบังค้นคว้าสูตรใหม่อิฐมวลเบาผสมขี้เถ้าแกลบเพิ่มความเย็นให้บ้านประหยัดพลังงาน

"เทคโนลาดกระบัง" จับมือเอกชนพัฒนาเทคโนโลยีผลิตอิฐมวลเบาจากขี้เถ้า ส่วนผสมใหม่ทดแทนทรายและปูนซีเมนต์ ระบุจุดเด่นขี้เถ้าแกลบช่วยลดอุณหภูมิห้องลงเฉลี่ย 1 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับอิฐบล็อกและอิฐมอญ

ดร.วัชระ เพิ่มชาติ ภาควิชาวิศวกรรมเกษตร คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมกับบริษัท Professional Block จำกัด ในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอิฐมวลเบา ทดแทนการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยมุ่งพัฒนาการผลิตอิฐมวลเบาชนิดไม่อบไอน้ำ ร่วมกับการค้นหาสูตรส่วนผสมใหม่ ที่ให้คุณภาพใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ทั้งยังมีคุณภาพดีกว่าอิฐบล็อกและอิฐมอญ ซึ่งเป็นวัสดุดั้งเดิมสำหรับงานก่อสร้างทั่วไป

ทีมงานได้ทดสอบคุณสมบัติอิฐมวลเบาที่ใช้วัตถุดิบต่างชนิด อาทิเช่น ปูนซีเมนต์ ทราย โฟม ขี้เถ้าลอยจากแกลบและขี้เถ้าลอยจากถ่านหิน เปรียบเทียบกับอิฐมอญและอิฐบล็อกธรรมดา ในเรื่องน้ำหนัก กันความร้อนและต้นทุน ทั้งนี้ ขี้เถ้าลอยเป็นของเหลือทิ้งจากขบวนการเผาไหม้ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม สามารถนำมาทดแทนทรายและปูนซีเมนต์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบในอิฐ จึงลดต้นทุนผลิต และเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

"ผลการศึกษาพบอัตราส่วนผสมเถ้าลอยของทั้งถ่านหินและแกลบที่ร้อยละ 12.5 โดยน้ำหนักจะให้ค่าความแข็งแรงของวัสดุสูงที่สุด นอกจากนี้ ยังพบว่าหากผสมขี้เถ้าลอยในอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การนำความร้อนของอิฐมวลเบาลดลงตามอัตราส่วน ขณะที่อิฐผสมเถ้าลอยแกลบจะให้ค่าการนำความร้อนต่ำกว่าเถ้าลอยถ่านหิน" ดร.วัชระกล่าว

จากการทดสอบวัดอุณหภูมิภายในห้อง ที่ผนังสร้างจากอิฐมวลเบาพบว่า มีค่าต่ำกว่าห้องที่สร้างจากอิฐมอญเฉลี่ย 1.0-1.5 องศาเซลเซียส และผลจากการเปรียบเทียบค่าใช้จ่าย ในการสร้างผนังอาคารโดยใช้อิฐแบบต่างๆ เช่น อิฐมวลเบาสูตรเดิมของบริษัท อิฐมอญและอิฐมวลเบาผสมเถ้าลอยแกลบพบว่า อิฐมวลเบาผสมเถ้าลอยแกลบ สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายสูงสุด หรือต้นทุนผลิตอยู่ที่ 320 บาทต่อตารางเมตร ขณะที่อิฐมอญและอิฐมวลเบาดั้งเดิม ต้นทุนอยู่ที่ 370-375 บาทต่อตารางเมตร
ปัจจุบันวงการวัสดุก่อสร้างไทยเริ่มพัฒนาอิฐมวลเบา เพื่อใช้เป็นวัสดุหลักในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนทดแทนอิฐบล็อกและอิฐมอญ เนื่องจากอิฐมวลเบามีคุณสมบัติโดดเด่น ในเรื่องของน้ำหนัก ใช้ส่วนผสมปูนซีเมนต์น้อย ระยะเวลาก่อสร้างสั้นลง ตลอดจนสามารถกันความร้อน ทำให้อิฐชนิดนี้เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น

เอกชนหลายแห่งได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอิฐมวลเบาในรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดระยะเวลาในการผลิตให้สั้นลง เช่น การผลิตแบบอบไอน้ำและไม่อบไอน้ำ แต่เนื่องจากเทคโนโลยีการผลิตจำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ส่งผลให้ราคาของอิฐมวลเบาชนิดอบไอน้ำยังอยู่ในเกณฑ์สูง เมื่อเทียบกับราคาอิฐทั่วไป

"ความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถนำผลที่ได้จากงานวิจัยไปใช้ปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ได้ในอนาคต ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมของประเทศ โดยลดการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ" หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าว

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ 8/1/50

1 ความคิดเห็น:

  1. อิฐมวลเบา


    K - BLOCK คือ บล็อกคอนกรีต อิฐมวลเบา
    ที่ใช้ระบบการผลิตแบบ K BLOCK Technology ที่ได้รับการวิจัย และพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งในยุโรป และอเมริกา จึงได้รับการยอมรับในหลายประเทศทั่วโลก บล็อกคอนกรีต อิฐมวลเบา K BLOCK Technology มีเอกลักษณ์โดดเด่นในด้านการป้องกันความร้อนและสามารถป้องกัน เสียงได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะให้นำมาใช้ในการก่อสร้างบ้าน โรงงาน อาคารสูง เป็นต้น.

    ตอบลบ